ทำความเข้าใจ ความเป็นตัวของตัวเองของเด็กวัยเตาะแตะ

Listen to this article
Ready
ทำความเข้าใจ ความเป็นตัวของตัวเองของเด็กวัยเตาะแตะ
ทำความเข้าใจ ความเป็นตัวของตัวเองของเด็กวัยเตาะแตะ







































ความเป็นตัวของตัวเองในเด็กวัยเตาะแตะ

























เก็บไว้อ่านคราวหน้า





































ทำความเข้าใจ ความเป็นตัวของตัวเองของเด็กวัยเตาะแตะ



































ทำความเข้าใจ ความเป็นตัวของตัวเองของเด็กวัยเตาะแตะ





















รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด




















บทความ




















ก.ย. 17, 2025




















2นาที










ในกระบวนการเติบโต ลูกน้อยจะสร้างบุคลิกภาพ ความมั่นใจในตัวเอง และความเป็นตัวของตัวเอง จึงเป็นเรื่องยากที่คุณเเม่จะรู้ว่าเวลาไหนควรเเนะนำ หรือให้ลูกตัดสินใจเอง



















































คำถามที่พบบ่อย
































ลูกวัยเตาะแตะชอบพูดว่า 'ไม่' ตลอดเวลาเลยค่ะ ทำยังไงดี?







เป็นเรื่องปกติและเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตเลยค่ะคุณแม่! เขาเพิ่งค้นพบว่าตัวเองมีความคิดเป็นของตัวเองและกำลังทดลองใช้ 'พลัง' ใหม่นี้ค่ะ ลองเปลี่ยนจากการออกคำสั่งเป็นการให้ "ทางเลือก" เล็กๆ น้อยๆ แทนนะคะ เช่น "จะใส่เสื้อสีฟ้าหรือสีแดงดีคะ?" จะช่วยให้เขารู้สึกว่าได้ควบคุมสถานการณ์และให้ความร่วมมือมากขึ้นค่ะ อย่างไรก็ตาม หากพฤติกรรมการต่อต้านรุนแรงจนน่ากังวล ควรปรึกษาคุณหมอเด็กหรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการนะคะ























ลูกอยากทำอะไรด้วยตัวเองไปหมดเลยค่ะ แต่ช้ามาก ควรช่วยเขาไหมคะ?







เข้าใจเลยค่ะว่าช่วงเช้าที่เร่งรีบมันน่าหงุดหงิดมาก! แต่นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการสร้างความมั่นใจและทักษะให้ลูกค่ะ ลองให้โอกาสเขาได้ฝึกฝนด้วยตัวเองในช่วงเวลาที่ไม่เร่งรีบ เช่น วันหยุดสุดสัปดาห์ และเตรียมเสื้อผ้าที่ใส่ง่ายๆ ไว้ให้เขาค่ะ ชื่นชมใน "ความพยายาม" ของเขา ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์นะคะ หากคุณแม่กังวลว่าความช้าของลูกอาจเป็นสัญญาณของพัฒนาการด้านอื่น ๆ ที่ล่าช้า ควรปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กเพื่อความสบายใจค่ะ























ทำไมลูกถึงร้องไห้หนักมาก เวลาที่แม่ต้องเดินห่างไปแค่แป๊บเดียวคะ?







เป็นเรื่องที่ทำให้ใจสลายได้เลยใช่ไหมคะ ภาวะนี้เรียกว่า "ความกังวลจากการแยกจาก" (Separation Anxiety) ค่ะ เกิดจากเขาเพิ่งเข้าใจว่าแม่กับเขาเป็นคนละคนกัน แต่ยังไม่เข้าใจว่าถึงแม่จะหายไปจากสายตา แต่เดี๋ยวแม่ก็จะกลับมาค่ะ ลองเล่นจ๊ะเอ๋บ่อยๆ เพื่อสอนให้เขารู้ว่าของที่หายไปกลับมาได้ และบอกลาก่อนไปเสมอ อย่าแอบหนีไปนะคะ แต่ถ้าอาการรุนแรงมากผิดปกติ หรือไม่ดีขึ้นตามวัย ควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมค่ะ





































จากการอยู่ห่างกันครั้งแรก สู่การพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง

อายุ 8 เดือน ลูกจะเริ่มเข้าใจว่าลูกและแม่เป็นคน 2 คนที่สามารถแยกจากกันได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความกลัวที่ลูกร้องไห้บ่อยๆ เมื่อลูกพ้นช่วงทารกและเมื่อเจอคนแปลกหน้า สิ่งนี้เรียกว่า distraction anxiety เขาจะเริ่มเรียนรู้หลักการของความแตกต่างอย่างช้าๆ เมื่ออายุประมาณ 18 เดือน ลูกจะเริ่มจำตัวเองได้เมื่อส่องกระจก ซึ่งเป็นจุดตัดของการเริ่มสร้างลักษณะนิสัยเฉพาะตัว และเป็นการเริ่มต้นของ “อาการต่อต้าน” เมื่อบอกว่าจะไปอาบน้ำ (ซึ่งปกติเธอชอบอาบน้ำ) แต่งตัว หรือกินอาหาร ลูกมักจะส่ายหน้าปฏิเสธ ซึ่งคุณแม่ต้องทำการยืนยันกับลูกอีกครั้ง ในช่วงนี้ลูกจะแสดงออกถึงความมั่นใจในตนเอง แต่ไม่ใช่การเริ่มต้นของลักษณะนิสัยที่แปรปรวน ลูกเริ่มรู้จักตัวเอง และต้องการบอกให้คุณแม่รับรู้ จากที่คุณแม่เคยเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ตอนนี้กลายเป็นลูกที่เป็นคนตัดสินใจแล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาณเหล่านี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของอาการต่อต้านในปีถัดไป

ความเป็นตัวของตัวเองในเด็กวัยเตาะแตะ

คุณแม่จะมีวิธีอย่างไรในการรับมือกับพฤติกรรมเหล่านี้

คุณแม่ไม่ควรเป็นผู้นำลูกในทุกๆเรื่อง แต่ควรฟังการร้องขอจากลูกบ้าง เพราะมันเป็นสัญญาณว่าลูกมีการเติบโตอย่างปกติ การแต่งตัวด้วยตัวเองอาจใช้เวลานาน แต่ต่อมาเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะช่วยประหยัดเวลาให้คุณแม่ได้ คุณแม่สามารถช่วยเขาทางอ้อมได้ โดยการเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ง่าย (ไม่มีซิป หรือกระดุม) รองเท้าผูกเชือก และซื้อช้อนส้อมพลาสติกให้ลูกใช้รับประทานอาหารคุณแม่ต้องมีความหนักแน่น ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และพูดให้ตรงประเด็น การอาบน้ำเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ว่าลูกจะชอบหรือไม่ คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ตั้งและใช้กฎต่างๆ ในบ้าน หากลูกอยากแต่งตัวเอง ลองให้เวลาลูกให้นานพอจนกว่าเขาจะใส่เสื้อเองได้ หากลูกอยากเล่นชิงช้าต่ออีก 5 นาที ก็ปล่อยเขา แต่ต้องยึดเวลา 5 นาทีนั้นจริงๆ และให้เลิกเล่นทันทีเมื่อหมดเวลา

มื้อเย็นที่วุ่นวาย

เมื่อคุณแม่ทำอาหารจานใหม่ และลูกพูดแต่ว่า “ไม่ หนูไม่ชอบ หนูไม่เอาอันนี้” เด็กช่วงอายุ 2-10 ปี มักมีอาการนี้ เรียกว่า การกลัวอาหารประเภทใหม่ๆลูกน้อยไม่ควรกินเฉพาะอาหารที่เขาชอบ แต่ต้องกินอาหารให้ครบถ้วนทั้ง5หมู่ คุณแม่ไม่ควรบังคับให้ลูกกิน หากลูกไม่ยอมกินปลา เนื้อสัตว์ และผัก คุณแม่อาจลองทำพายเนื้อ หรือผสมชีสกับผักเพื่อให้ลูกกินได้ง่ายขึ้น การทำตัวอย่างให้ลูกเห็นเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน การทำให้ดูไม่เพียงทำให้ลูกกินอาหารนั้นได้ แต่ลูกอาจชอบอาหารนั้นๆด้วย โดยคุณแม่อาจพาลูกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและทำอาหารด้วยกัน ลูกน้อยจะมีความสุขและสนุกเมื่อได้กินอาหารที่ทำเอง

















































































คุณแม่ตั้งครรภ์






คุณแม่ตั้งครรภ์














แม่ผ่าคลอด






แม่ผ่าคลอด














ดูแลลูกตามช่วงวัย






ดูแลลูกตามช่วงวัย














ภูมิแพ้ในเด็ก






ภูมิแพ้ในเด็ก














แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน






แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน














พัฒนาการสมองลูกน้อย






พัฒนาการสมองลูกน้อย














การขับถ่ายลูกน้อย






การขับถ่ายลูกน้อย














แม่ให้นม






คุณแม่ให้นมบุตร














ตัวช่วยสำหรับคุณแม่






เครื่องมือตัวช่วยคุณแม่ท้อง พร้อมปฎิทินการตั้งครรภ์














อาหารเด็ก






อาหารเด็ก














S-Mom Club พร้อมเคียงข้างทุกช่วงเวลาที่สำคัญของคุณและลูก






S-Mom Club














วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ






วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ














ผลิตภัณฑ์






ข้อมูลผลิตภัณฑ์














โปรโมชั่น






โปรโมชัน



















































ความคิดเห็น

ความคิดเห็น (0)

ยังไม่มีความคิดเห็นสำหรับบทความนี้

โฆษณา

คำนวณฤกษ์แต่งงาน 2568

ปฏิทินไทย

24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วันจันทร์
Advertisement Placeholder (Below Content Area)